โบรกเกอร์ FOREX ที่ดีที่สุดในประเทศไทยปี 2565 (2022)! ดูรายชื่อแบบเต็ม ๆ ได้ที่นี่!

ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ในหมู่นักเทรด forex ว่าโบรกเกอร์ใดในประเทศไทยที่ดีที่สุด และอะไรที่เป็นตัวกำหนดว่าเราควรจะใช้แบบใด ยังไงก็ตาม หลังจากได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ก็ได้เป็นที่ยอมรับว่าไม่มีโบรกไหนในประเทศไทยที่ถือว่าดีที่สุดในประเทศไทย เพราะว่าแต่ละโบรกเกอร์ก็มีจุดแข็งและจุดอ่อนที่ขึ้นอยู่กับตลาดหลักทรัพย์ในประเทศไทย โบรกเกอร์ของประเทศสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักรน่าเชื่อถือกว่าโบรกเกอร์ใด ๆ ในโลกอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่โบรกเกอร์จาก Cyprus ก็ให้บริการกับนักเทรดด้วยเงื่อนไขการซื้อขายที่ดีกว่า เช่น: สเปรดต่ำ, มาร์จิ้นต่ำ, แฟลตฟอร์มที่ดีกว่า รวมทั้งระบบการชำระเงินในประเทศไทย มาตรฐานของโบรกเกอร์ที่ที่ควรที่จะ: มีความเชื่อถือได้, มีต้นทุนการซื้อขายที่ดี, เงื่อนไขการซื้อขายที่ดี และการช่วยเหลือท้องถิ่น และนี้คือโบรกเกอร์ที่ผมคิดว่าเหมาะสมที่จะถูกเรียกว่า “โบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุดในประเทศไทย”

• Exness – 8/10  สำรวจเพิ่มเติมที่นี่
• XM – 7.5/10 สำรวจเพิ่มเติมที่นี่
• HotForex – 7/10  สำรวจเพิ่มเติมที่นี่
• FXTM – 6.5/10 สำรวจเพิ่มเติมที่นี่

ดูวิดีโอนี้เพื่อทำความเข้าใจให้ดีขึ้น: 

ต่อไป ผมจะอธิบายว่าโบรกเกอร์ดังกล่าวเป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยได้อย่างไร และอะไรที่ตรงกับมาตรฐานที่ผมได้กล่าวไว้ข้างต้น 

โบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทยควรเชื่อถือได้

นักเทรดในเอเชียรวมทั้งนักเทรดในประเทศไทย ต้องเผชิญกับปัญหาที่ยากลำบากมากที่สุดเมื่อต้องการซื้อขาย forex ที่สุดในโลก พวกเขามีส่วนมากกว่า 30% ของปริมาณการซื้อขายรวมในตลาดโลก แต่การซื้อขาย forex ในเอเชียเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมายในหลายประเทศรวมถึงประเทศไทย นั่นเป็นเหตุผลว่าถ้าหากมีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น นักเทรดชาวไทยส่วนใหญ่จะไม่ได้รับความคุ้มครอง ดังนั้นหากคุณต้องการหาโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในประเทศไทย โบรกเกอร์นั้นจะต้องสามารถรักษาความปลอดภัยให้กับลูกค้าได้ แล้ววิธีใดที่จะรู้ว่าโบรกเกอร์ใดน่าเชื่อถือล่ะ? เราแค่ต้องตรวจสอบระเบียบหรือใบอนุญาตของพวกเขาเท่านั้น กฎระเบียบควรทำโดยองค์กรทางการเงินที่มีกำไร หรือไม่แสวงหาผลกำไรเพื่อจัดการโบรกเกอร์ในตลาด forex  ถึงแม้ว่าจะเป็นองค์กรที่แตกต่างกัน แต่กฎระเบียบของพวกเขาก็มีกฎบางอย่างเหมือนกันเช่นการ เลเวอเรจสูงสุด, ข่าวสารที่มีคุณภาพ, กองทุนการดำเนินงานขั้นต่ำของโบรกเกอร์, โบนัสและบัญชีแยกประเภทเพื่อปกป้องลูกค้าหรือข้อความโฆษณาเพื่อหลีกเลี่ยงนักเทรดไม่ให้เข้าใจผิด ... กฎระเบียบที่ได้รับจากโบรกเกอร์:

• Exness – CySEC, FCA ตรวจสอบข้อบังคับของ Exness
• HotForex – CySEC, FSCA, FSC ตรวจสอบข้อบังคับของ HotForex
• XM – CySEC, FCA, ASIC ตรวจสอบข้อบังคับของ XM
• FXTM – IFSC ตรวจสอบข้อบังคับของ FXTM

มันเป็นเรื่องค่อนข้างยากสำหรับโบรกเกอร์ที่จะได้รับใบอนุญาต ดังนั้นโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตก็คือโบรกเกอร์ที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างไรก็ตามข้อบังคับก็มีข้อเสียเช่นกัน สำหรับกฎระเบียบของสหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร, สเปรดของโบรกเกอร์, ค่าคอมมิสชั่น และมาร์จิ้นมักจะสูงกว่าปรกติ มีแพลตฟอร์มการซื้อขายน้อยกว่า และมีวิธีการชำระเงินน้อยกว่า และเพราะข้อเสียเหล่านั้น โบรกเกอร์ควรอยู่ใต้หนึ่ง หรือสองกฎเกณฑ์เท่านั้น ผมคิดว่าใบอนุญาต CySEC และ FCA มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด และโบรกเกอร์ที่มีใบอนุญาตเหล่านี้ก็อยู่ในอันดับโบรกเกอร์ forex ระดับต้น ๆ อีกด้วย:

• Exness เป็นโบรกเกอร์ forex ที่มีจำนวนการซื้อขายต่อเดือนมากถึง $400 ล้านดอลลาร์ ตรวจสอบรายละเอียด
• XM’s มีจำนวนการซื้อขายมากถึง $300 ล้านดอลลาร์ต่อเดือน ตรวจสอบรายละเอียด

โบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุดในประเทศไทยควรมีต้นทุนการซื้อขายต่ำที่สุด

โบรกเกอร์ forex จากสหรัฐอเมริกามักเรียกเก็บเงินค่าคอมมิชชั่นและค่าโบรกเกอร์สูงที่สุดในตลาด ตัวอย่างเช่น Forex.com และ FXCM คิดค่าคอมมิสชั่นจาก 1.7 ถึง 2 pips สำหรับการซื้อขาย EUR/USD ในขณะที่โบรกเกอร์อื่นที่ผมได้กล่าวมาข้างต้นคิดค่าคอมมิชชั่นน้อยมาก ต่ำกว่าประมาณ 50% ของโบรกเกอร์อเมริกัน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สำคัญที่สุดคือโบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุดในประเทศไทยต้องมีระบบการชำระเงินหรือวิธีการชำระเงินที่ดีกว่าสำหรับเทรดเดอร์ชาวไทยของตน ผมแน่ใจว่าโบรกเกอร์บางแห่งในสหรัฐหรือสหราชอาณาจักร เป็นโบรกเกอร์ที่ดีที่สุดในประเทศของตน แต่กรณีในต่างประเทศถือว่าค่อนข้างแย่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียหรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทย ในประเทศไทยหากเทรดเดอร์ฝากเงินด้วยบัตรเครดิตธนาคาร พวกเขาจะถูกเรียกเก็บเงิน 1.7-4% ของเงินทุนทั้งหมดของพวกเขา ซึ่งการทำอัตรากำไร 5% ต่อเดือนก็เป็นเรื่องยากพอแล้ว พวกเขายังต้องจ่าย 4% เพื่อฝากเงินอีกเหรอ? ผมไม่คิดอย่างนั้น นั่นเป็นเหตุผลที่คนไทยไม่ค่อยฉลาดในการซื้อขายกับโบรกเกอร์สหรัฐและสหราชอาณาจักร ดังนั้นการเลือกโบรกเกอร์ที่มีระบบการชำระเงินแบบท้องถิ่นมีความสำคัญมาก

โบรกเกอร์ใดมีระบบการชำระเงินที่ดีที่สุด?

โบรกเกอร์เกือบทั้งหมดที่ผมกล่าวถึงก่อนหน้านี้มีระบบการชำระเงินผ่านธนาคารภายในประเทศไทย เช่นธนาคารกรุงเทพ  ไทยธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารกสิกรไทยรวมถึงระบบการชำระเงินทางอินเทอร์เน็ตหลายรูปแบบเช่น Perfect Money, WebMoney, Neteller, Skrill และ Cashu ผมเทรดกับโบรกเกอร์ forex มามาก และตัวผม พร้อมกับเทรดเดอร์หลายท่าน รวมทั้งเพื่อนของผมก็ยอมรับว่าระบบการชำระเงิน Exness นั้นดีที่สุด Exness มีวิธีการชำระเงินมากกว่า 30 วิธี ในประเทศไทยและไม่คิดค่าบริการในการชำระเงิน Exness มีระบบการชำระเงินแบบทันที ธุรกรรมส่วนใหญ่ของพวกเขาใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที และใช้เวลาเพียงมิลลิวินาทีในการฝากหรือถอน รวมถึงโอนเงินของคุณในขณะที่โบรกเกอร์อื่น ๆ จะใช้เวลาเป็นชั่วโมง หรือวันในการดำเนินการ ตรวจสอบระบบการชำระเงินของ Exness ที่นี่

โบรกเกอร์ FOREX ที่ดีที่สุดในประเทศไทยควรมีแฟลตฟอร์มเพื่อการเทรดที่ดีกว่า

เราทุกคนรู้ว่า MT4 และ MT5 เป็นสองแพลตฟอร์มในการเทรดที่มีชื่อเสียงมากที่สุด อย่างไรก็ตาม ผมสามารถพูดได้เลยว่ามันไม่สมบูรณ์แบบ เพราะแฟลตฟอร์มไม่สามารถใช้ร่วมกับระบบปฏิบัติการบางอย่างเช่น Window Vista หรือ Window XP ได้ นอกจากนี้ยังไม่สามารถติดตั้งในโทรศัพท์บางรุ่นได้ นั่นเป็นเหตุผลที่โบรกเกอร์บางรายได้สร้างแพลตฟอร์มการซื้อขายของตนเองขึ้น โดยผู้นำในการพัฒนา / ปรับปรุงแพลตฟอร์มการซื้อขายคือ XM

โบรกเกอร์ FOREX ที่ดีที่สุดในประเทศไทยต้องสนับสนุนเทรดเดอร์ให้มากยิ่งขึ้น

ในด้านการซื้อขายแลกเปลี่ยน forex การสนับสนุนเทรดเดอร์เป็นเรื่องสำคัญมากเนื่องจากการซื้อขาย forex เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมาก เช่นเดียวกับเทรดเดอร์รายอื่น ๆ จากทั่วโลก เทรดเดอร์ forex ของไทยจะต้องได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างมาก โบรกเกอร์ forex ที่ดีที่สุดในประเทศไทยควรมีสำนักงานท้องถิ่นเพื่อสนับสนุนลูกค้าของพวกเขาแบบเห็นหน้า โบรกเกอร์ที่มีสำนักงานในประเทศไทย ได้แก่

• Exness – 8/10  สำรวจเพิ่มเติมที่นี่
• XM – 7.5/10 สำรวจเพิ่มเติมที่นี่
• HotForex – 7/10  สำรวจเพิ่มเติมที่นี่
• FXTM – 6.5/10 สำรวจเพิ่มเติมที่นี่